วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561
แบไต๋พาชมบูธ ASUS ในงาน Computex 2018 ณ ไต้หวัน
โซน Zenbo
เป็น Robot ที่ทักทาย และเต้นต้อนรับตั้งแต่หน้าบูธเลยทีเดียวอ่าน มีความสามารถในการสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก และยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นเพื่อช่วยเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ และความปลอดภัยได้อีกด้วยโซน Motherboard และ ASUS Vivo Watch BP
เป็นผนังจัดแสดงเมนบอร์ด และส่วนของ ASUS Vivo Watch BP อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวเช่นกัน เป็นนาฬิกาอัจฉริยะเพื่อสุขภาพ สามารถวัดความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำในระดับการแพทย์ และในการชาร์จครั้งนึงสามารถอยู่ได้ถึง 28 วันเลยทีเดียววันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ลือ iPhone อาจจะเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C แทนในปี 2019
ปัญหายุ่งยากเรื่องสายชาร์จของ iPhone "อาจจะ" ถูกแก้ไขแล้วในปีหน้า แม้ว่าพอร์ต Lighning ของ iPhone จะทำหน้าที่ของมันได้ดีขนาดไหน แต่มันก็มีปัญหาใหญ่อยู่ตรงที่มันเป็นพอร์ตอินดี้ที่ใช้อยู่แค่บน iPhone เท่านั้น MacBook Pro ก็หันไปใช้ USB-C แทนแล้ว อุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็ใช้การชาร์จผ่าน Micro USB หรือหากเป็นอุปกรณ์ใหม่ๆ ก็นิยมหันมาใช้ USB-C กันแล้ว กลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องพกสายชาร์จหลายเส้นโดยปริยาย างสื่อ Digitimes รายงานว่า Apple กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงของการออกแบบ โดย Apple จะเริ่มจากการให้อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C และสาย Lightning to USB-C มาในกล่องของ iPhone ก่อน และช่วงสุดท้ายของความเปลี่ยนแปลง iPhone ก็อาจจะหันมาใช้พอร์ต USB-C โดยตรงเลย ซึ่งคาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในปี 2019
อันที่จริง ความเปลี่ยนแปลงนี้มันก็สมเหตุสมผลอยู่นะ เพราะ MacBook รุ่นใหม่ของ Apple ก็หันมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว เราสามารถชาร์จมือถือแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ กับ MacBook ได้โดยตรง แต่พอจะชาร์จ iPhone เรากลับต้องต่อผ่านอะแดปเตอร์อีกที มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตลกมาก
อย่างไรก็ตาม การให้สาย Lightning to USB-C มาแทน Lightning to USB แบบปัจจุบัน เราเชื่อว่าน่าจะมาจริง และมาแน่ แต่การที่ iPhone จะใช้พอร์ต USB-C แทน Lightning เลย เราว่าเป็นไปได้ยากมาก เพราะพอร์ตนี้ถือว่ายังมีอายุที่ค่อนข้างน้อยมาก พอร์ต FireWire มีอายุถึง 12 ปี หรือพอร์ต 30 พิน ที่ใช้ใน iPhone รุ่นแรกก็มีอายุถึง 11 ปี ส่วน Lightning นี้เพิ่งจะมีอายุได้แค่ 6 ปี เท่านั้นเอง
อีกประเด็นที่สำคัญ ที่ทำให้เราคิดว่า iPhone ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ USB-C ง่ายๆ คือ "รายได้" ที่ทาง Apple ได้จาก MFi licensing program (มาตรฐานสินค้าที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple) ที่ทางผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมให้ทาง Apple ต้องจ่ายให้ Apple หากต้องการใช้โลโก้ MFi บนกล่องสินค้าเป็นใบรับรองว่าอุปกรณ์จะสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา โดยค่าใช้โลโก้ MFi อยู่ที่ $4 (ประมาณ 130 บาท) ต่อชิ้นเลยทีเดียว
ที่มา : mashable.com , www.digitimes.com , gizmodo.com
วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ป้อนรหัส PIN อัตโนมัติครั้งเดียวจากข้อความ
การป้อนรหัส PIN แบบครั้งเดียวผ่านข้อความนั้นถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร ซึ่งฟีเจอร์ใส่รหัส PIN อัตโนมัตินี้จะเป็นการนำเอารหัสที่ได้รับผ่านข้อความไปป้อนรหัส PIN ให้เลยทันทีMemoji
ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ iPhone X สามารถสร้าง Emoji จากใบหน้าของตัวเองเป็นต้นแบบขึ้นมาเองได้ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับ AR Emoji ใน Samsung ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ควบคุมและตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์
Apple เพิ่มฟีเจอร์ Screen Time ใน iOS 12 ที่ทำให้ทราบถึงระเวลาใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเทรนด์การจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟนของบรรดาแบรนด์ไอที รวมทั้งช่วยให้ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลาและตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของเด็ก ๆ ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง Google ก็เพิ่งเปิดตัวแอป Google Family Link ตั้งแต่ปีที่แล้ว และ Dashboard บน Android P ที่สามารถตรวจสอบรายละเอียดการใช้งาน รวมถึงแอป App Timer ที่สามารถกำหนดระนะเวลาใช้งานแอปฯ นั้น ๆ ได้ด้วยระบบแจ้งเตือนแบบ Bundled Notifications
เป็นระบบการแจ้งเตือนที่มัดรวมข้อความแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันเดียวกันให้เป็นชุด ๆ แบบเรียงซ้อนกัน ซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในระบบแจ้งเตือนที่ดีที่สุดของ Android ที่มีอยู่ก่อนแล้วเช่นกันคำแนะนำในการแชร์รูปภาพ
ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มลูกเล่นด้านรูปภาพใน iOS 12 นั้นคือคำแนะนำในการแชร์รูปภาพ เช่น หากถ่ายรูปกับเพื่อนสนิทของเรา ก็จะมีคำแนะนำให้แชร์ภาพดังกล่าวกับบุคคลนั้นได้ง่ายขึ้น ซึ่งฟีเจอร์นี้ Google Photos ก็มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)